แอปเปิ้ลไซเดอร์รสชาติเปรี้ยวจี๊ดเหมือนน้ำส้มสายชู คอมบูชาพอลองหมักเอง หรือซื้อมาดื่มทำไมกลิ่นถึงคล้ายๆ แอปเปิ้ลไซเดอร์ แล้วแอปเปิ้ลไซเดอร์กับแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกาคืออย่างเดียวกันหรือเปล่า แม้ว่าทั้ง 3 อย่างล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่มันจะมีอะไรที่ดีที่สุดกับสุขภาพของคุณหรือไม่ บทความนี้จะพาไปดูความแตกต่างของแต่ละอัน
คอมบูชาคือ?
เราน่าจะเคยเห็นจากโฆษณาโทรทัศน์ หรือตามร้านอาหารสุขภาพจะมีชาหมักคอมบูชาวางขายตามตู้แช่ เครื่องดื่มที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซ่าสดชื่น
แม้ว่าคอมบูชาจะเป็นเครื่องดื่มที่ใหม่มากในบ้านเรา แต่มันเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่เก่าแก่ย้อนไปมากกว่า 2000 ปีในประเทศจีน
วัตถุดิบหลักของคอมบูชาได้แก่ น้ำตาล จุลินทรีย์และใบชา ที่เราเห็นรสชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ สมุนไพร ก็สามารถเติมเข้าไปได้เช่นกัน
ในการทำคอมบูชา เราจะผสมส่วนผสมแล้วตั้งทิ้งไว้ 7-15 วันโดยประมาณ ในระหว่างนั้นจุลินทรีย์จะย่อยน้ำตาล สร้างความเปรี้ยวและขยายตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการหมัก เช่นเดียวกับอาหารหมักชนิดอื่นๆ อย่างกิมจิ ปลาส้ม ไวน์ เทมเป้
เวลาเราหมักคอมบูชาจะเกิดแผ่นวุ้นขึ้น ซึ่งเป็นส่วนนึงของ SCOBY จริงๆแล้ววุ้นตัวนี้จะเป็นวุ้นตัวเดียวกันกับวุ้นมะพร้าว สามารถนำมารับประทานได้
แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกาคือ?
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหรือ apple cider vinegar (ACV) ทำมาจากแอปเปิ้ล นำไปทำให้ละเอียดและผสมยีสต์เข้าไป ยีสต์จะเปลี่ยนน้ำตาลในแอปเปิ้ลกลายเป็นแอลกอฮอล์ พอเป็นเบียร์แอปเปิ้ลแล้ว ก็จะเติมแบคทีเรียกรดน้ำส้มเข้าไปโดยจะเปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลนั่นเอง
แต่ในคอมบูชาจะมีทั้งแบคทีเรียและยีสต์อยู่ใน scoby และจุลินทรีย์พึ่งพาอาศัยกัน (symbiosis) เลยทำให้คอมบูชามีแอลกอฮอล์ต่ำ คอมบูชาจะใช้น้ำชาหวาน ส่วนน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์จะใช้น้ำแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกาเปรียบเสมือนน้ำส้มสายชู ใช้ในการทำน้ำสลัด ปรุงอาหาร หรือนำมาเจือจางเพื่อดื่มสำหรับผู้ทานคีโต ส่วนคอมบูชานั้นพร้อมดื่มทันที
แอปเปิ้ลไซเดอร์ vs แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา
บ้านเรามักเรียกน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล (apple cider vinegar - ACV) ว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ แต่จริงๆ แล้วยังมีสิ่งที่เรียกว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ มันคือน้ำแอปเปิ้ลที่คั้นออกมายังมีตะกอนและเนื้อแอปเปิ้ลหลงเหลืออยู่ เตรียมสำหรับนำไปทำเป็นเบียร์แอปเปิ้ล (hard cider) เราสามารถนำเอาเบียร์แอปเปิ้ลใส่หัวเชื้อน้ำส้มสายชู หรือ SCOBY ลงไป ทำให้กลายเป็นน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลได้เนื่องจากเชื้อตัวนี้ต้องใช้แอลกอฮอล์และอากาศในการสร้างกรดขึ้นมา
ประโยชน์ของคอมบูชา
นอกจากรสชาติที่ดีของคอมบูชา ประโยชน์ของมันก็เป็นตัวดึงดูดให้คนหันมาสนใจดื่มคอมบูชา เนื่องจากมีเอนไซม์ กรดอินทรีย์ และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มากมาย
การดื่มคอมบูชาเป็นการเติมแบคทีเรียตัวที่ดีเพิ่มเข้าไปในร่างกาย ซึ่งจะช่วย:
ใบชาเป็นส่วนผสมหลักของคอมบูชา เราก็จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ด้วยเช่นกัน คอมบูชาส่วนใหญ่ทำจากชาเขียวและชาดำ ซึ่งจะช่วย:
ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญ
ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล
มีงานวิจัยหลายงานพบว่าน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน (ถ้าความไวต่ำ น้ำตาลในเลือดจะสูง) และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานทานอาหาร
ในงานวิจัยหนึ่งให้อาสาสมัครดื่มน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหลังจากกินขนมปังขาว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของอาสาสมัครลดลง 30% การทำให้ระดับน้ำตาลลดลงช่วย:
ลดความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 และการต่อต้านอินซูลิน
ช่วยลดการอักเสบ
ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด
ช่วยไม่ให้น้ำหนักเกินและช่วยลดน้ำหนัก
ทั้งสองอย่างอาจไม่ใช่ยาวิเศษที่ดื่มแล้วสุขภาพดีทันที แต่ควรกินแบบองค์รวม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
คอมบูชา vs แอลเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา รสชาติเป็นอย่างไร?
คอมบูชาและแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกามีกลิ่นคล้ายกัน แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกาจะมีกลิ่นฉุนที่แรงกว่า แต่เรื่องรสชาติ คอมบูชาจะหวาน ซ่า ดื่มง่ายกว่า สามารถดื่มได้ทันที แต่แอปเปิ้ลไซเดอร์จะเป็นน้ำส้มสายชูที่มีกลิ่นเปรี้ยวจากแอปเปิ้ล ซึ่งเวลาจะดื่มต้องเจือจางก่อน
คอมบูชา vs แอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา อันไหนดีกว่ากัน?
การเลือกระหว่างคอมบูชาและแอปเปิ้ลไซเดอร์ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านสุขภาพ และรสชาติที่เราชอบ การที่เราเลือกทั้งสองอย่างก็ไม่ผิดเลย ทั้งคู่ล้วนให้ประโยชน์กับเรา
เขียนและเรียบเรียงโดย Nature Kombucha
Source
DrinkSunny | http://bit.ly/3hL6qVc
Windfallcider | http://bit.ly/3hWcwSU
Hellokhunmor | http://bit.ly/3EsiYZd
Comments