top of page

ประวัติคอมบูชา: ตำนานและเรื่องเล่าเครื่องดื่มอมตะ ตอนที่ 1

อัปเดตเมื่อ 2 ก.ย.


ประวัติศาสตร์คอมบูชา ตำนวนและเรื่องเล่า ต้นกำเนิดของคอมบูชา

แม้ว่าความนิยมของคอมบูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มประเภทนี้อาจจะมีต้นกำเนิดเมื่อ 5,000 ปีก่อน หรือเพียงแค่ 200 ปีก็ได้ แต่การระบุแหล่งกำเนิดที่แท้จริงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลักฐานที่มีจดบันทึกก็มีน้อยมากๆ


เราจะพาไปดูเรื่องเล่าและหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์คอมบูชา มีเรื่องอะไรบ้าง เกิดขึ้นที่ไหนบ้าง โดยเราพยายามจะค้นหาแหล่งอ้างอิงจากหลายๆ ที่ บทความนี้จะพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคอมบูชาตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน


กำเนิดของคอมบูชา


ในการทำคอมบูชา คุณต้องการ ชา น้ำตาล และScoby แต่ในการทำ Scoby คุณต้องมีหัวเชื้อหรือน้ำคอมบูชา! แล้วคอมบูชาตัวแรกมาจากไหน?


คอมบูชาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ การเกิดของมันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เหมือนกับไข่กับไก่ เราไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าคอมบูชาตัวแรกมาจากไหน อย่างไรก็ตาม เราพอจะเดาได้ว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร


โลกใบนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองหาแหล่งอาศัยและเจริญเติบโต คอมบูชาถือกำเนิดขึ้นโดยบังเอิญ จากชาหวานที่วางทิ้งไว้บนขอบหน้าต่าง แบคทีเรียและยีสต์ในอากาศได้ตกลงไปอยู่ในถ้วยชาหวานนั้นแล้วขยายพันธุ์ พวกมันสร้างเป็นแผ่นวุ้น กินน้ำตาล และทำให้ชามีความเปรี้ยวหรือความเป็น กรดมากขึ้น


ในสมัยโบราณกาล การหมักเปรียบเหมือนเวทมนตร์ การทำคอมบูชาคล้ายการทำน้ำส้มสายชูแบบธรรมชาติซึ่งจะได้แผ่นวุ้น scoby ขึ้นมาเหมือนกัน ในสมัยก่อนวิทยาการยังไม่สามารถตรวจเช็คเรื่องจุลินทรีย์ ผู้คนยังไม่มีความเข้าใจ จึงใช้การทดลอง อย่างในต่างประเทศจะเรียกแผ่นวุ้น scoby ว่า mother เพราะเวลาเราเอาเจ้าแผ่นวุ้นนี้ไปใส่ เราก็จะได้น้ำส้มสายชู เปรียบเสมือนเป็นหัวเชื้อ หรือแม่พันธุ์ของน้ำส้มสายชูและคอมบูชา และรูปร่างมันก็คล้ายเห็ดเมื่อมีคนนำมาทำคอมบูชาก็มักจะถูกเรียกว่า ชาเห็ด


ต้นกำเนิดของคอมบูชา - เมื่อไหร่? ที่ไหน?


การเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของคอมบูชาต้องการชา น้ำตาล และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก (แบคทีเรียและยีสต์)

เนื่องจากคอมบูชาเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เราจึงพยายามระบุต้นกำเนิดของมันโดยการค้นหาว่าส่วนประกอบของคอมบูชาเหล่านี้มาพบกันครั้งแรกเมื่อใดและที่ไหน

  • จุลินทรีย์: มีอายุเก่าแก่เทียบเท่าสิ่งมีชีวิตเลยทีเดียว สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมีอยู่ทั่วโลกบนโลกใบนี้มาหลายพันล้านปี

  • น้ำตาล: ร่องรอยแรกของการเพาะปลูกอ้อยเพื่อเอาน้ำตาล ปรากฏขึ้นเมื่อ 6,000 ปีที่แล้ว ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น้ำตาลเดินทางมาถึงจีนอีก 500 ปีต่อมา (อ้างอิง)

  • ชา: การบริโภคชาอาจเริ่มต้นขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเมื่อประมาณ 5,000 ปีที่แล้ว (อ้างอิง)


สรุปแล้ว เป็นไปได้มากที่สุดที่คอมบูชาแรกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อเกือบ 5,000 ปีที่แล้วในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ดังนั้น แหล่งกำเนิดของคอมบูชาน่าจะมาจากประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นยังไม่มีหลักฐานชัดเจนทำให้เราไม่มีทางรู้ได้แน่ชัด และการดื่มชาอย่างจริงจังพึ่งเกิดขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ถังกลางศตวรรษที่ 8 นี้เอง


ตำนานคอมบูชา


มีตำนานและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคอมบูชา ต่อไปนี้เป็น 3 ตำนานเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคอมบูชา และเราจะมาดูกันว่าแต่ละเรื่องมีควาเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด


ชาเห็ดกับการตามหายาอายุวัฒนะของจิ๋นซีฮ่องเต้


ชาเห็ด จิ๋นซีฮ่องเต้กับการตามหายาอายุวัฒนะ
จิ๋นซีฮ่องเต้

ตำนานแรกของคอมบูชามีขึ้นย้อนหลังไปถึง 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในประเทศจีน จักรพรรดิ์จิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇 (Qin Shi Huang) ทรงออกตามหาสูตรยาอายุวัฒนะ พระองค์จึงได้ออกประกาศให้เหล่าข้าราชบริพารค้นหายาที่จะนำไปสู่ชีวิตอมตะ (อ้างอิง)


"灵芝" (língzhī) หรือ เห็ดหลินจือ เป็นหนึ่งในยาอายุวัฒนะที่ถูกนำมาทดสอบ เลยถูกเรียกว่า  "ชาเห็ด" เนื่องจาก scoby มักถูกเรียกว่า "เห็ด" บ่อยครั้ง และลักษณะ scoby ดูคล้ายหมวกเห็ด ชาวตะวันตกมักเรียกว่า ชาเห็ดเหมือนกัน นักดื่มคอมบูชาหลายคนจึงเชื่อว่าชาเห็ดอาจเหมายถึงคอมบูชา แต่ยาอายุวัฒนะชนิดนี้น่าจะหมายถึงเห็ดหลินจือมากกว่าคอมบูชา ซึ่งอาจจะเป็นการสับสนในคำแปลก็เป็นได้


หมอคอมบุ ผู้รักษาจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น โดยการใช้ชาหมัก

อีกตำนานหนึ่ง มีขึ้นในปี ค.ศ.415 แพทย์จากอาณาจักรชิลลา(เกาหลี) ได้รับเชิญให้มารักษา จักรพรรดิ์อิงเงียวแห่งญี่ปุ่น (อ้างอิง) แพทย์ท่านนี้ใช้ชาที่ผ่านการหมักเพื่อรักษาจักรพรรดิ์ที่ป่วยอยู่ ชื่อของแพทย์ท่านนั้นคือ หมอคอมบุ (Kombu)


อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ได้มีหลักฐานที่แน่ชัดว่า ชาหมักรสเปรี้ยวคือชาที่ใช่รักษาจักรรดิ์ และในญี่ปุ่นก็อาจจะสับสนระหว่าง kombu-cha หรือ ชาคอมบุ ที่หมายถึง ชาที่ต้มด้วยสาหร่ายได้อีกด้วย


พระที่ใช้มดและชาในการรักษาจักรรพรรดิ์

ตำนานอีกเรื่องมาจากรัสเซีย เล่าถึงจักรพรรดิ์ที่ป่วยและทรงเรียกพระที่มีพลังวิเศษมาช่วยรักษา พระรูปนั้นบอกกับจักรพรรดิ์ว่าจะรักษาอาการป่วยด้วย...มด เพียงตัวเดียว!


พระท่านนำมดใส่ลงไปในชาของจักรพรรดิ์ และแนะนำให้รอ "แมงกะพรุน" (Scoby?) เติบโต น้ำชาใต้แมงกะพรุนนั้นจะช่วยรักษาพระองค์ได้ (อ้างอิง)


แม้ว่าตำนานทั้งสามเรื่องนี้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ก็มีความเชื่อมโยงที่เห็นได้ชัดระหว่างคอมบูชากับสุขภาพ เครื่องดื่มในสมัยนั้นถูกดื่มในรูปแบบที่มีรสเปรี้ยวจัดเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ที่มีประโยชน์


อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำคอมบูชาไหม? อ่านคู่มือของเราได้ที่





จบไปแล้วกับเรื่องเล่าของคอมบูชาในตอนที่ 1 ตอนต่อไปเราจะเล่าถึงประวัติของคอมบูชาที่เข้าใกล้ยุคปัจจุบันมากกันขึ้น รอติดตามกันได้เลย หากไม่อยากพลาด บทความล่าสุดสามารถสมัครรับข่าวสารผ่านอีเมลด้านล่างสุดได้เลย


Sources


Onlinelibrary | https://bit.ly/4bCue3U

Publisherweekly | https://bit.ly/3xB42Jb

0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page